lover of the last emperor  เขาอยากได้ช่วยเหลือครอบครัว ก็เลยปลอมตัวเข้าไปเป็นขันทีในราชสำนัก แล้วก็ได้รับใช้สนิทสนมซูสีไทเฮา ก็เลยได้เข้าไปเกี่ยวพันกับการจัดการชาติบ้านเมืองด้วย ส่วนอีกคนหนึ่งหมายถึงเหลียนเหวินซิ่ว เป็นลูกของภรรยาเก็บของลูกชายผู้ที่ 2 ในเชื้อสายคนมั่งคั่ง บรรลุความสำเร็จสำหรับเพื่อการสอบอันยากที่สุด ได้เป็น จองหงวน และก็ลุกขึ้นยืนยืดอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังการปรับปรุงการปกครองเพื่อสร้างจีนใหม่ เขาก็เลยเป็นผู้บรรยายถึงความขมขื่นของพระราชาธิราชกวางสู ซึ่งทรงตระหนักถึงอันตรายที่จะมาถึงจีนในอนาคต ก็เลยทรงบากบั่นจะชิงอำนาจทุกด้านคืนมาให้ได้ เรื่องราวก็เลยดำเนินไปโดยนักแสดง 2 ชายหนุ่มเป็นผู้บอกกล่าวแกนหลักของเรื่องเป็น การชิงอำนาจระหว่างจักรพัตราธิราชกวางสูผู้มีความประสงค์ปฏิวัติจีนให้พ้นจากความเสื่อมโทรม กับ ซูสีไทเฮา

ผู้ยื้ออำนาจไว้จนกว่าจะถึงที่สุด ความไม่ถูกกันระหว่างหลี่ชุนอวิ๋นขันทีของซูสีไทเฮากับเหลียนเหวินซิ่ว หน้าจอหงวนของจักรพัตราธิราชกวางสูก็เลยเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น และก็เพิ่มความเข้มข้นขึ้น ด้วยหน้าที่ของหนูน้อยจาง สตรีลึกลับ ค่ะโนะสุเกะ โอกะ ผู้รายงานข่าวคนประเทศญี่ปุ่นที่ประจำอยู่ในเมืองปักกิ่ง แล้วก็ผู้แสดงอื่นๆประกอบกันขึ้นเป็นภาพชีวิตในราชสำนักชิง ซูสีไทเฮา เกิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยปลายวงศ์สกุลชิง ในรัชสมัยสมเด็จพระจักรพัตราธิราชกวางสู (จางโป๋) สมเด็จพระพระราชาธิราชชายหนุ่มที่วงศ์สกุลชิง ผู้มุ่งประสงค์ที่เปลี่ยนแปลง การปกครองของประเทศ เนื่องจากว่ามองเห็นการที่ประเทศจะเสื่อมถอยเนื่องจากการแผ่อำนาจจากมหาอำนาจชาติตะวันตก แม้กระนั้นมี พระนางซูสีไทเฮา (ทะนะกะ ยูโกะ) ซึ่งเป็นผู้ เลี้ยงดูท่านมาแต่ว่าทรงพระเยาว์

เป็นผู้มีอำนาจทั้งยังในวังหลวงแล้วก็อำนาจทั้งมวลสำหรับในการดูแลประเทศ โดยมีรายละเอียดที่เป็นการชิงอำนาจอย่างมีเชิงชั้นระหว่าง พระนางซูสีไทเฮา และก็ สมเด็จพระจักรพัตราธิราชกวางสู ซึ่งในเรื่องราวได้บ่งบอกถึงถึงความเจ็บที่หลบซ่อนอยู่ลึกๆด้านในใจของพระนางซูสีไทเฮา ที่มานะจะกุมอำนาจไว้ให้ตลอด โดยที่เรื่องราวจะเล่าผ่านจาก 2 นักแสดงเป็นหลี่ชุนอวิ๋น (โย่ว เซ่าจวิน) ขันทีและก็นัก แสดงงิ้วคนโปรดของพระนางซูสีไทเฮา ซึ่งเล่าในมุมมองของพระนางซูสีไทเฮา รวมทั้ง เหลียงเหวินซิ่ว (โจว อี้ฉี) หน้าจอหงวนชายหนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์วงศ์สกุล ซึ่งเป็นพี่ชายคน โตของ หลี่ชุนอวิ๋น เล่าในมุมมองของสมเด็จพระพระราชาธิราชกวางสู

 

ดูหนังออนไลน์  lover of the last emperor 

Fast X เร็ว…แรงทะลุเมืองนรก 10รวมทั้งแล้วพวกเราก็ซิ่งมาถึงจุดเริ่มแรกของจุดสิ้นสุด…ที่ก็ยังคลุมเคลือจริงๆอีกนั่นแหละว่าจะจบใช่หรือไม่ กับอีกหนึ่งเฟรนไชส์หนังแอคชั่นที่เข้มแข็งที่สุดในยุคนี้ อย่าง “Fast X เร็ว…แรงทะลุแดนนรก 10” ที่คนไหนกันจะไปนึกว่าจากภาคแรกที่เกือบไปไม่รอดแล้ว สามารถยื้อลมหายใจเปลี่ยนมาเป็นภาคที่ 10 ได้อย่างในตอนนี้วันนี้ และก็มาคราวนี้ก็อย่างกับไปนั่งร้าน

แล้วสั่งยำรวมมิตรที่เต็มไปด้วยวัตถุรวมทั้งเครื่องเยอะมาก กับรสที่เผ็ดฉ่ากระทั่งเกือบจะเหนื่อยล้า แม้กระนั้นอย่าลืมไปว่า..นี่เป็นเริ่ม Fast X เร็ว…แรงทะลุแดนนรก 10 เกิดเรื่องราวภายหลังภารกิจมากและก็การดิ้นรนขวนขวายปัญหานานาประการ ดอม ทอเร็ตโต้ รวมทั้งครอบครัวของเขา ก็สามารถเชือดคม ชนะสงครามประสาทแล้วก็แซงหน้าศัตรูทุกคนที่อยู่บนทางของพวกเขาได้ เวลานี้

พวกเขาจะได้เจอหน้ากับคู่ต่อสู้ที่อันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยพบมา  lover of the last emperor   ภัยรุกรามน่าสยองจากเงาสมัยก่อน ที่ถูกเผาผลาญด้วยหนี้สินเลือด ผู้เป็นจริงเป็นจังจะพังทลายครอบครัวนี้ให้แตกเป็นเสี่ยงแล้วก็ทำลายทุกอย่าง รวมทั้งทุกคนที่ดอมรัก ไปนิรันดรเนื่องจาก “จัสติน ลิน”

ประกาศอนตัวจากการเป็นผู้กำกับไปจากทันควัน เพื่อเพียงแค่ไม่กี่อึดใจก่อนที่จะหนังจะเริ่มถ่ายทำ ให้ภาคนี้ได้ส่งไม้ถึงแม้ว่าจะกับ “หฝ่าส์ เลเทอร์เรียร์” ที่เคยผ่านงานปังๆอย่าง Now You See Me อีกทั้ง 2 ภาค และก็หนังเชื้อสาย Clash of the Titans แม้กระทั่งเป็นประสานมือต่อแบบรวดเร็วไม่น้อย แต่ว่าเขาก็สามารถปรับพฤติกรรมกับวัฒนธรรม หรือบางครั้งก็อาจจะกล่าวได้ว่า “แฟมิลี่” ของหนังเครือญาติฟาสต์ได้อย่างเร็วเช่นกัน

ส่วนใดส่วนหนึ่งบางทีก็อาจจะเป็นเพราะหนังได้ถูกวางรากฐานเอาไว้อยู่แล้ว ตำนานรักซูสีไทเฮา  โดยกลุ่มสร้างชุดเดิม ที่นำกลุ่มโดย จัสติน ลิน นั่นเอง ทำให้พวกเราไว้ใจหัวข้อการเดินเรื่องและก็เล่าแบบไม่มีรอยต่อไปในภาคนี้ไปได้เลย งานดูแลของ หฝ่าส์ เลเทอร์เรียร์ ยังคงเส้นอาจจะวารวมทั้งเอกลักษณ์ของเฟรนไชส์หนังประเด็นนี้อย่างดีเยี่ยม เป็นประสบการณ์ 2 ชั่วโมงนิดๆที่เต็มไปด้วยฉากแอคชั่นเชิญชวนเหวอและ

ไม่มีเหตุผลอะไรก็ตามเลยนิดหน่อย แต่เต็มไปด้วยอรรถรสความมันส์และก็ความเพลิดเพลินประเภทระเบิดเมืองเป็นจุล สำหรับ Fast X ที่ได้ จัสติน ลิน มาร่วมทีมเขียนบทกับ “ดินแดน มาซัว” ที่รู้จักดีกันดีมาตั้งแต่เฟรนไชส์สมัยแรกๆรวมทั้ง “เอ็งปรี่ สก็อต ทอมป์สัน” จากหนัง Wrath of the Titans ที่ถูกดึงตัวว่าร่วมพร่ำสอนบท แน่ๆว่าหนังยังสืบต่อเรื่องราวเอาไว้ได้ค่อนข้างจะแยบคาย

แม้กระนั้นถ้าหากจะสอบถามหาถึงแก่นสารต่างๆแล้วนั้น  คงจำต้องบอกไม่อ้อมค้อมว่า Fast X เป็นหนังที่ออกจะเลอะแล้วก็หาสาระอะไรเกือบจะมิได้เลย เพียงแต่ว่ามันยังสามารถทำให้ผู้ชมเอ็นหน้าจอยไปด้วยมันก้าวหน้า โดยยิ่งไปกว่านั้นแฟนคลับที่จะกรี๊ดกร๊าดไปกับ easter eggs ต่างๆที่วางเรียงรายได้ทั้งยังเรื่องทางด้านเทคนิคงานสร้างของ Fast X ก็คงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับภาคที่แล้วทำเอาไว้ มันยังคงผสมปนเปไปด้วยฉากบ่อยๆเดิมๆแอคชั่นวิถีเดิมๆที่ผู้ชมคงจะรู้จักกันอย่างดีเยี่ยมแล้ว ทุนสร้างของหนังคงจะหนักไปที่วิธีการทำซีจีต่างๆที่ภาคนี้ยัดใส่เข้ามาแทบทุกซีนเลยก็ว่าได้

แล้วก็มันก็อัดแน่นไปด้วยฉากแอคชั่นใหญ่ๆหลายซีนมาประกอบกัน บางครั้งก็อาจจะไม่สมบูรณ์แบบและก็ขาดตกบกพร่องไปอยู่บ้าง   แต่ว่าก็เป็นการคืนผลกำไรให้กับผู้ชมดีน่าจะจะต้องยอมรับตรงๆเลยว่า ระหว่างที่ดูหนังประเด็นนี้นักเขียนค่อนข้างจะเหม็นเบื่อไปกับคอนเซ็ปต์จุดขายของหนังหัวข้อนี้ อย่าง ไฮไลต์ความเป็นครอบครัว มันแปลงเป็นส่วนประกอบที่มันรวมทั้งเชยไปเสียแล้ว ถูกประยุกต์ใช้บ่อยครั้งจนกระทั่งชอกช้ำไปหมด ซึ่งบางคราวก็หยอดใส่เข้ามาแบบไม่รู้จักคนบ้านนอกสักเท่าไหร่ จากอารมณ์บู๊เดือดจัดๆอยู่โยงมาโหมดซึ้งแฟมิลี่เชิญมันอีกแล้ว จุดนี้แปลงเป็นความระบมของหนังที่บ่อนทำลายตัวหนังไปอย่างโชคร้าย

The Legend & Butterfly” ยิ่งใหญ่คละเคล้าน้ำเสีย ลิเกโรงใหญ่ฉบับไทกะประเทศญี่ปุ่น

มาเสนอแนะหนังฟอร์มใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นสักนิด ประเด็นนี้เพิ่งจะลงโรงฉายไปเมื่อตอนปีใหม่ 2023 ก่อนหน้านี้ในประเทศญี่ปุ่น นี่เป็น “The Legend & Butterfly” ที่เป็นการโคจรมาพ่นไฟทางการแสดงด้วยกันของ 2 ซุปตาร์ประเทศญี่ปุ่น “ทาคุยะ คิมูระ” กับ “ฮารุกะ อายาเสะ” ที่มองเห็นเพียงแค่ชื่อกลุ่มดาราและก็ผู้ผลิตก็จะต้องมุ่งหวังสูงเสียแล้ว ถึงแม้หนังแนวนี้จากประเทศญี่ปุ่นจะไม่ค่อยเป็นที่ชินตาของชาวไทยเยอะแค่ไหน แต่ว่าเมื่อลองเปิดใจสัมผัสมอง ก็จะพบว่า… The Legend & Butterfly เกิดเรื่องราวในตอนศตวรรษที่ 16 โนบุนางะ โอดะ ขุนศึกอันโด่งดังดินแดนอาทิตย์อุทัย กับนิสัยรักสนุกและไม่เอาไหน เขามีสมญานามว่า ‘ไอ้งั่งที่โอวาริ’ และก็โดนจับสมรสกับ โนฮิเมะ ด้วยเหตุผลด้านการเมือง แรกเจอทั้งสองไม่ถูกกันเลย ซ้ำยังมีนิสัยที่แตกต่างสุดขีด จนกระทั่ง

โยชิโมโตะ อิมากาวะ ได้เคลื่อนพลมาโจมตีเมืองที่เขาดูแลอยู่  lover of the last emperor   แต่ว่าเนื่องจากว่ากองทัพปริมาณพรั่งพร้อมไม่สามารถต้านทานได้ โนบุนางะโกรธ แม้กระนั้นมีเพียงแค่โนฮิเมะที่เป็นอย่างยิ่งดวงใจรวมทั้งให้คำปรึกษา ทำให้เขาไม่เพิ่งจะหดหู่และก็นำไปประยุกต์เป็นอุบายการทำศึกคืนกลับกองทัพของศัตรู ด้วยหวังจะรวมแผ่นดินให้มั่นคงรุ่งเรืองรวมทั้งยิ่งใหญ่

นี่เป็นผลงานการผลิตสรรค์ของผู้กำกับมีชื่อ “เคอิชิ โอโตโมะ” จากเฟรนไชส์หนังซามูไรร่อนเร่พเนจร (Rurouni Kenshin) ทุกภาค แน่ๆว่าเขามีประสบการณ์มารับสิบปี ทั้งยังเคยสะดุดตางานการสร้างภาพยนตร์แนวไทกะมาด้วย ทำให้เขาทราบจังหวะรวมทั้งมุมมองที่สมควรที่จะหยอดกับใส่อะไรที่ประจวบเหมาะเข้ามาในหนังหัวข้อนี้ เพียงแต่ว่ายังแอบเสียดายนิดๆตรงที่หนังขาดส่วนประกอบของความกระชับไปสักนิด

เนื่องจากนี่แปลงเป็นหนังเอพิคที่มีความยาวเกือบจะ 3 ชั่วโมง โดยที่เกือบจะไม่มีอะไรขับออกมาเป็นคุณลักษณะเด่นได้เลยหนังได้ “เรียวตะ โกซาวะ” ผู้เขียนฝีมือเยี่ยมที่พวกเรารู้จักดีงานของเขาจากเรื่อง Always: Sunset on Third Street ที่เป็นงานแจ้งกำเนิดของเขานั่นเอง นี่ถือว่าเป็นการกลับมาเขียนบทหนังแนวไทกะของเขาอีกรอบในรอบนับเป็นเวลาหลายปี และก็ยังเป็นไทแก่ตัวม์ไลน์ที่ย้อนยุคไปๆมาๆกๆจากเรื่อง Always อย่างยิ่งจริงๆ บทหนังของเขาค่อนข้างจะราบเรียบ เดินเรื่องไปแบบทีละลำดับครั้งละตอน ทั้งยังหาข้อดีที่สำคัญได้ไม่เด่นชั้นสักเท่าไหร่นัก

แต่บทหนัง The Legend & Butterfly ก็มีเอกลักษณ์สำหรับเพื่อการยกเรื่องราวความเชื่อมโยงของตนเองออกมาได้อย่างดีเยี่ยม  betflix711   คล้ายกับเป็นสูตรสำเร็จแบบที่ผู้เขียนผู้นี้เคยทำเอาไว้ได้เสร็จจาก Always นั่นแหละ แต่ว่าเว้นแต่ความละมุนในสายสัมพันธ์ความสัมพันธ์ระหว่างผู้แสดงแล้ว กลับยังไม่เห็นมิติอะไรอื่นๆในหัวข้อนี้ เนื่องจากว่าการสู้รบรวมทั้งเชิงประวัติศาสตร์ต่างๆที่ใส่เข้ามา

ก็นำพามาแบบผิวเผินไปสักนิดสักหน่อยด้วยเหตุดังกล่าว The Legend & Butterfly ก็เลยแทบจะไม่มีความต่างไปจากละครโรงใหญ่ หรือ ลิเกฉบับประเทศญี่ปุ่น ที่เนื้อไม่ค่อยเน้นย้ำมากเท่าไรนัก ใส่น้ำเข้ามาให้ผู้ซื้อได้อิ่มแบบจุกๆก็ถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบที่น่าผิดหวังอยู่เบาๆเพราะว่าในที่สุดเมื่อหนังฉายจบลงไปแล้ว พวกเราเกือบจะมิได้มีความสัมพันธ์อะไรก็ตามกับหนังประเด็นนี้สักเท่าไหร่นัก

เนื่องจากว่าหลักสำคัญที่ดูเหมือนจะแจ่มชัดแม้กระนั้นยังไม่ชัดเจน  lover of the last emperor  ความคลุมเครือสำหรับในการเล่าที่มิได้เชื้อเชิญให้เข้าถึงอารมณ์ ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า หนัวแนวโทกะจากประเทศญี่ปุ่นบางครั้งก็อาจจะค่อนข้างจะไกลตัวของผู้ชมในไทยไปสักนิด โน่นก็เลยเป็นคำตอบของปริศนาที่ว่าเพราะอะไรเกือบจะไม่เคยมองเห็นหนังประเทศญี่ปุ่นแนวนี้มาฉายในบ้านพวกเราเลย เพราะว่าตัวหนังค่อนข้างจะมีความเฉพาะบุคคลอยู่พอควร อีกทั้งเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ แล้วก็ท่าทางการเล่าเรื่องที่ไม่สามารถที่จะตีปัญหาให้แตกได้ในระดับสากลนั่นเอง