หนังสงคราม รัสเซีย

หนังสงคราม รัสเซีย เกิดเรื่องราวของข้าราชการปฏิบัติการณ์พิเศษสหรัฐ จำนวน 12 นาย โดยมี “ไม่ตช์ เนลสัน” (คริส เฮมส์เวิร์ธ) นำกลุ่ม รวมทั้งทั้งหมดทั้งปวงถูกส่งไปยังอัฟกานิสถาน หลังจากเกิดเหตุการณ์ 911 ก็เลยทำให้เหล่าทหารจะต้องร่วมมือกับนายพลฝ่ายเหนืออย่าง “นายพลอับดุล ราชีด ดอสตุๆม” เพือจะปฏิบัติหน้าที่ประมือกับฝ่ายตาลีบันไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งจุดหมาย คือ ยึดเมืองมาซาร์ อี ชาริฟ คืนมาให้เสร็จ เพื่อนำความสำราญมาสู่แผ่นดินอีกทีผลงานการควบคุมของ “แมทไซส์ วาน เฮนิงเก้น จูเนียร์” (จากหนัง The Thing) ที่ถือว่าคัมแบ็กกลับมาทำหนังเรื่องยาวอีกทีในรอบแทบทศวรรษ ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ดิบได้ดี

หลายๆส่วนประกอบของหนังทำเป็นถึง แม้ว่าจะเน้นความเป็นดราม่า มากยิ่งกว่าความโหฬารของฉากสู้การทำศึก แม้กระนั้นหนังก็ยังสร้างความใหญ่โตได้จากความดราม่าพวกนี้ โดยเฉพาะฉากแบทเทิลช่วงท้ายของหนัง  หนังสงคราม รัสเซีย และยังจำต้องขอบคุณมากความเข้มข้นและหนักแน่นของโครงเรื่องของหนังประเด็นนี้เป็นแน่แท้โดยภาพรวม The Forgotten Battle ถือว่าเป็นหนังดราม่าการรบที่ค่อนข้างซาบซึ้งใจ ไล่อารมณ์ของผู้ชมขึ้นไปเรื่อยส่วนประกอบของหนังทำออกมาเจริญในหลายส่วน งานดีไซน์ฉากสงครามถือว่าทำได้สมจริงสมจัง งานวางแบบเสียง งานตัดแต่งรูปภาพ รวมทั้งถ่ายรูปต่างๆทำออกมาได้น่าพอใจ ทั้งยังมีบทหนังที่ค่อนข้างจะเข้มข้นไม่เบา

แม้ว่าจะยังไม่ใช่บทหนังที่เยี่ยมที่สุด แต่หนังกับสร้างความทรงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างพึงพอใจได้ระดับหนึ่งอีกหนึ่งหนังสงครามผลิตขึ้นมาจากเรื่องจริงที่พวกเรารู้จักอย่างพรรคทุ่งนาซีแล้วก็ชาวยิวนั่นเองค่ะ อย่างที่พวกเรารู้กันว่าในตอนที่พรรคท้องนาซีมีอำนาจสูงสุดของเยอรมัน ได้มีการทรมานชาวยิวด้วยการกักขังแล้วก็ล้างเชื้อสาย Schindler’s List เรื่องนี้จึงเป็นหนังที่สะท้อนความเจ็บของชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีตัวละครหลักเป็น Oskar Schindler นักธุรกิจผู้ร่วมพรรคที่นาซีที่มีแนวคิดไม่ตรงกับพรรครวมทั้งช่วยเหลือชาวยิวไว้กว่าพันคน

Hana ตกอยู่ในภาวะจิตตก เธอเชื่อว่าทั้งหมดทั้งปวงที่เกิดขึ้นเป็นเนื่องจากว่าคุณถูกสาป

มาให้คนที่คุณรักต้องตายไปทุกคน แต่ว่าเธอก็ได้กำลังใจจาก”คนเจ็บชาวอังกฤษ” คนนั้น เมื่อ Hana มีความคิดเห็นว่าผู้เจ็บป่วยของคุณไม่สามารถที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ได้อีกต่อไป เธอก็เลยรับรองที่จะอยู่พยาบาลเขาที่สำนักชีร้างแถวนั้นกระทั่งเขาจะตาย แม้บรรดาแพทย์สนามและก็เพื่อนพ้องพยาบาลจะห้าม คุณการันตีว่าหากคนป่วยคนนี้ตาย เธอจะตามไปโดยทันที ระหว่างนั้นทั้งคนไข้คนอังกฤษรวมทั้ง Hana ก็ค่อยๆฟื้นฟูความทรงจำของเขาได้ และราวกับจะมีความลับดำสนิทบางอย่างที่เบาๆเผยตัวจากการเช็ดกซ่อนจากความทรงจำของชายคนนี้ผลงานการควบคุมของ Peter Berg ที่ผลิตขึ้นจากความจริงที่ถูกเขียนเป็นหนังสือในชื่อเดียวกันของ Marcus Luttrell แสดงนำโดย Mark Wahlbergนี่เป็นเรื่องราวของ Marcus Luttrell และกลุ่มของเขา

ที่ได้ส่งไปทำภารกิจ จับหรือฆ่าผู้นำกลุ่มตาลิบัน Ahmad Shah ในตอนปี ค.ศ. 2005 (พ.ศง 2548) แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเขาดันจับเด็กเลี้ยงแพะมาคนหนึ่งแม้กระนั้นปล่อยไป จึงทำให้กลุ่มตาลีบันมาล้อมพื้นที่จับตายพวกเขา ทางเดียวที่เขาจะรอดออกไปเป็นการพยายามเอาชีวิตรอดจากดงลูกกระสุน สนามรบเดือดแห่งนี้ แล้วก็หนังเรื่องนี้ก็ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สาขาด้วยอเมริกาได้ส่งกองกำลังพิเศษเข้าไปในโซมาเลีย รวมทั้งส่งเฮลิคอปเตอร์ Black Hawk เข้าไปด้วย แม้กระนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำถูกยิงโดยกองกำลังของโซมาเลีย ทำให้เหล่าทหาร ที่รอดชีวิตจากเรื่องเฮลิคอปเตอร์ตก หนังสงคราม รัสเซีย ต้องพยายามดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดภายใต้สถานการณ์ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน(พวกเราเชื่อว่าคอหนังการศึกจำต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้แน่ๆ)

เจมี แฟลตเทอร์ส Jamie Flatters รับบทบาทเป็น วิลเลียม นักบินเครื่องร่อน

ชายหนุ่มอังกฤษผู้มีใจฮึกเหิม กล้าหาญ พร้อมออกศึกทั้งที่ชั่วโมงฝึกฝนบินยังมีไม่มากมาย แต่สามารถบินแบบม้วนลำได้ เขามีคำสัญญากับพ่อที่เป็นทหารระดับสูงว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้านโดยสวัสดิภาพในวันคริสต์มาส หนังหัวข้อนี้พาคุณไปรู้จักตะแกรง (Glider) ที่ใช้เป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญในสงครามโลกครั้งที่สองภารกิจนำพลทหารไรอันกลับไปอยู่ที่บ้านจึงตกแก่กองกำลังของร้อยเอกไม่ลเลอร์ ซึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชา 7 คน โดยที่แต่ละคนไม่เข้าใจว่า เพราะเหตุใดต้องเสี่ยงชีวิตคนส่วนใหญ่เพื่อชีวิตคนๆเดียวด้วย โดยที่ระหว่างทางพวกเขาต้องเผชิญกับการสิ้นไปอย่างมาก ซึ่งในตอนท้าย ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยได้เสียชีวิตแล้วก็ร้อยเอกไม่ลเลอร์ด้วย เมื่อก่อนตาย เขาได้บอกแก่ไรอันว่า ใช้ชีวิตให้คุ้ม ซึ่งไรอันได้จดจำและก็สำนึกในบุญคุณของมิลเลอร์ไปตลอด(หัวข้อนี้ตำนานสำหรับเราเลยด้วยเหตุว่าเกิดเรื่องแรกที่พวกเราดูหนังแนวการสู้รบ)

จากฝีมือการกำกับรวมทั้งเขียนบทของ David Ayer ที่ได้ดาราระดับแม่เหล็กอย่าง Brad Pitt มานำแสดงกับเรื่องราวของพลรถถังในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้รับภารกิจให้ฝ่าการปกป้องคุ้มครองที่แน่นหนาของเยอรมัน โดยการใช้รถถังเชอร์แมนของอเมริกานามว่า Fury บุกตะลุยฝ่ากองทัพท้องนาซีเข้าไปศูนย์กลางจุดยุทธศาสตร์ อิงมาจากความเป็นจริงตรงนี้เป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้อเมริกาได้รับชัยชนะในสงครามโลกคราวนี้นี่คือหนังสงครามที่พวกเราไม่ค่อยได้มองเห็นกันนัก เนื่องจากว่ามันเป็นการต่อสู้ของรถถังแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ระทึก ตื่นเต้น ระเบิด ตู้ต้าม โดยธรรมดาเราจะเห็นทหารราบวิ่งยิงกัน หรือแบบเครื่องบินรบ หนังสงคราม รัสเซีย แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้ง ที่ได้เห็นหนังสงครามที่ใช้รถถังเป็นพระเอก

นอกเหนือจากความมันส์ หนังยังมีแง่มุมของความดราม่า บอกให้เห็นถึงความขาดความกรุณาปรานีของการทำศึกอยู่เช่นกัน ที่ถึงจะไม่มีรางวัลติดมือ แต่ว่าสนุกพะยะจ้ะหนึ่งในหนังสุดแสบของผู้กำกับสุดจี๊ดอย่าง Quentin Tarantino ซึ่งได้รับการยินยอมรับในวงกว้างแล้วเมื่อเขากำกับหนังพีเรียดในบรรยากาศสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเด็นนี้ หนังเข้าชิงถึง 8 รางวัลออสการ์ (รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ดีเลิศด้วย)

ซึ่งหนังตลกร้ายสุดบันเทิงสักเรื่องจะมาไม่ได้ไกลขนาดนี้ถ้าไม่ใช่ชื่อชั้นและบารมีของผู้กำกับ Tarantino ส่วนของดีของตัวหนังเองก็คือ กลุ่มดาราหนังที่โชว์ความสามารถกันไม่ยั้ง หนึ่งในนั้นได้รางวัลออสการ์สมทบชายเยี่ยมไปครอบครองก็คือ Christoph Waltz ซูซาน แร้ดเดอร์ Susan Radder สวมบทเป็น เทินเซีย ฟิสเซอร์

เจ้าหน้าที่รัฐชาวฮอลันดาสถานที่สำหรับทำงานในศาลากลางให้นายกเทศมนตรี

าศัยอยู่กับพ่อ ดร. ฟิสเซอร์ (Jan Bijvoet) และน้องชาย ดีร์ก (Ronald Kalter) เทินเป็นชาวฮอลล์แลนด์อีกคนที่หวังให้ฝ่ายสัมพันธมิตรให้เสรีภาพให้ฮอลแลนด์ รอคุ้มครองดีร์ก น้องชายที่แอบต้านพวกเยอรมันอย่างลับๆลักษณะท่าทางเป็นคนตั้งใจจริง กล้า เพียรพยายาม รักบิดาและน้องชาย สาวซูซานแสดงเจริญ ชอบใจความสวยสดงดงามแบบเรียบง่าย ดูได้เรื่อยๆไม่เบื่อจัดแจงเจอกับอุบัติการณ์ความระทึกครั้งใหม่เมื่อกัปตันเรือมุดน้ำที่ไม่เคยทำศึกมาก่อนต้องร่วมมือกับหน่วยซีลเพื่อช่วยเหลือผู้นำรัสเซียที่โดนจับเป็นนักโทษ ภายหลังเกิดการปฏิรูปโดยทหารที่มีผู้นำคือสมัยก่อนนายพลรัสเซียที่ไม่ซื่อตรงเพื่อหวังจะจุดชนวนสงครามโลกครั้งลำดับที่สาม แสดงนำโดยตัวพ่อหนังแอคชั่น พบร์ราร์ด บัตเลอร์ และผู้เอารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายดีที่สุดปีปัจจุบันอย่าง มึงรี่ โอลด์แมน

ว่าด้วยชื่อชั้นสำหรับหนังแอ๊กชั่นแนวการเมือง เจอร์ราร์ด บัตเลอร์ ที่ผ่านงานอย่าง Olympus Has Fallen (2013) รวมทั้ง Den of Thieves (2018) ถือว่ามีชื่ออยู่ในระดับที่พวกเราวางใจได้ ยิ่งสมทบกับศิลปินมากฝีมือรุ่นเก๋าอย่าง เอ็งรี่ โอลด์แมน ที่พึ่งได้ออสการ์นำชายเยี่ยมที่สุดปีปัจจุบันจากการสวมบท วินสตัน เชอร์ชิลล์ ใน Darkest Hour (2017) ก็หายห่วงในเรื่องความเข้มข้นในทางดราม่าการเมือง ที่น่าลุ้นหน่อยเป็นฝีมือของผู้กำกับ โดโนแวน มาร์ช ที่ทำหนังสร้างชื่ออยู่ฝั่งแอฟริกาใต้มาตลอดแถมยังไม่มีหนังใหญ่ระดับการทำศึกระหว่างประเทศอย่างประเด็นนี้เป็นการันตีด้วย

แต่หนังก็ยังได้โอกาสมระดับบิ๊กอีกผู้คนจำนวนมากมาร่วมกัน เป็นต้นว่า อาร์น ชมิดต์ ที่เคยโปรดิวซ์ให้หนังอย่าง RoboCop (1987) และก็ xXx (2002) มาแล้ว แล้วก็นี่ยังได้โปรดิวเซอร์จาก Olympus Has Fallen มาคุมอีก ก็เลยเป็นหนังที่ตั้งใจจัดเต็มมาเพื่อสร้างชื่อของผู้กำกับฝากในฮอลลีวู้ดที่จำเป็นต้องเอาใจช่วยเลยเป็นเรื่องราวในช่วงสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง หนัง สงคราม รัสเซีย  ในเมษายน ปี ค.ศ. 1945 กองกำลังผู้ส่งเสริมของอเมริกาพยายามบุกในเมืองเบอร์ลินของเยอรมัน แต่ว่าก็จะต้องพบกับการปกป้องที่แน่นหนาจนกระทั่งไม่สามารถที่จะทะลวงเข้าไปได้ จึงเป็นหน้าที่ของ วอร์แดดดี้ (กางรด พิตต์) จ่าสิบเอกของกองกองทัพกับลูกทีม 4 คนภายในรถถังต่อสู้ที่ชื่อ “ฟิวปรี่”

ที่จะทำภารกิจบุกตะลุยฝ่ากองทัพท้องนาซีเข้าไปในใจกึ่งกลางจุดยุทธศาสตร์ ซึ่งคำตอบของภารกิจพวกเขา ก็แปลงเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้กองทัพอเมริกาเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะในสงครามโลกในปี 1941 Col. Hans Landa นำทหารท้องนาซีเข้าตรวจหาฟาร์มวัวนมแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมั่นใจว่าเป็นที่ลี้ภัยของชาวยิว เขาพบว่าแต่งงานชาวยิวซ่อนอยู่ที่ห้องใต้ดิน ก็เลยสั่งลูกน้องกราดยิงคนทั้งสิ้น มีเพียงแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งแอบหนีไปได้ 3 ปีต่อมา ชาวยิวรวมตัวกันก่อตั้งกรุ๊ป “กลุ่มโคตรแสบ” นำโดยร้อยโท Aldo Raine เขารวมกลุ่มทหารอเมริกันเชื้อสายชาวยิวออกเอาคืนทหารท้องนาซีอย่างใจร้ายจนกระทั่งเป็นที่เลื่องลือ โดยยิ่งไปกว่านั้นการใช้มีดกรีดหน้าผากเป็นสัญลักษณ์สวัสดิกะเพื่อเป็นการประจาน

Hunter Killer (2018) สงครามอเมริกาผ่ารัสเซีย

เกิดเรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยการหายไปของเรือดำน้ำอเมริกันลำหนึ่งในทะเลหลังบ้านของรัสเซีย โจ กลาส (สวมบทโดย เจอราร์ด บัตเลอร์) จึงจำต้องรับหน้าที่ผู้บังคับบัญชาคนใหม่ของเรือ ‘ยูเอสเอส อาร์คันซอ’ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือ ในขณะเดียวกันหน่วยซีลของกองทัพเรือได้ถูกส่งเข้าไปชิงตัวประธานาธิบดีรัสเซียที่ถูกจับเป็นตัวรับรองข้างในฐานทัพเรือโพลิอานี เนื่องมาจากเกิดการรัฐประหารโดยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ด้วยเหตุดังกล่าวทุกฝ่ายก็เลยจำต้องดำเนินการภายใต้ความกดดันแล้วก็แข่งกับเวลา เนื่องจากว่าเดิมพันในครั้งนี้เป็นการรบใหญ่ที่กำลังจะปะทุขึ้น

Mosul เป็นหนังอีกประเด็นที่สร้างขึ้นมาจากเรื่องจริง

โดยมี Mosul ชื่อเมืองในอิรักเปฌนฉากหลังของประเด็นนี้ โดยเนื้อเรื่องนั้นได้สะท้อนถึงความเถื่อนของการศึกที่ส่งผลต่อชีวิตของมนุษย์เป็นวงกว้าง รวมถึงฉากแอ็คชั่นที่จัดเต็มบู๊สะบั้นหั่นแหลกมากมายๆอีกทั้งประเด็นนี้ยังมีกลิ่นอายของการรบในอิรักร่วมด้วย ทำให้ราวกับผู้ชมได้สัมผัสถึงความเหมือนจริงกับฉากกลุ่มนี้ หนังสงคราม รัสเซีย แต่แม้ในเรื่องจะมีตัวละครที่มากสักนิดสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่านักแสดงเหล่านี้มักมีปมบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ผู้ชมจะต้องค้นหาคำตอบอย่างแน่แท้ เป็นหนังสงครามอีกหัวข้อที่หลายคนชี้แนะ เรื่องนี้กล่าวถึงประวัติของ William Wallace อัศวินชาวสกอตแลนด์ที่ปลุกระดมชาวสกอตแลนด์ให้ปลดตนเองออกมาจากการเป็นประเทศราชของอังกฤษซึ่งมีพระผู้เป็นเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ที่อังกฤษเป็นผู้ดูแล แม้จะมีการติชมอยู่บ้างถึงรายละเอียดที่บิดเบือนไปจากเรื่องจริงหลายส่วนเพราะขั้นตอนการทางประวัติศาสตร์ แต่ว่าก็เป็นหนังที่ได้รับรางวัลออสการ์สูงถึง 5 รางวัลเลยทีเดียวค่ะ

โปรโมชั่น

สอบถามข้อมูล ได้ที่ Line @viewbet369

 

https://cheap-sunglassesonline.com/