ดู my man อย่างแรกเป็น ฮานะไม่ได้ใสซื่อมาตั้งแต่ตอนเด็กๆฉากที่นั่งกินข้าวแล้วบอกให้จุงโกจูบทำเอาเราอึ้งไปหน่อย (ไม่คิดว่าจะแรงตั้งแต่เด็กงี้) แต่ฮานะยังมีความสดชื่นแบบเด็กผู้หญิง ซึ่งเราดูแล้วก็ยังคลุมเคลือว่าเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณหรือแกล้งใสซื่อไหม ฮานะทราบในระหว่างที่จุงโกมีแฟน ฮานะไม่ได้แสดงความหึงหวงออกมาอย่างแจ่มแจ้ง แต่ฮานะประกาศตัวว่าจุงโกเป็นของคุณ (ฉากที่อมต่างหูไว้ในปากแล้วเดินไปคุยกับโคมัตจิ) ฉากนั้นเรารู้สึกนางแก่แดดแก่ลมล้นหลาม และดูเกินกว่าเด็กสาวที่หวงพ่อ ในความรู้สึกเรามันอย่างกับเมียหลวงเดินไปบอกเมียน้อยว่ายังอย่างไรเขาก็เป็นของฉันอยู่แล้ว (รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ) และก็เราก็เคืองขุ่นเช่นเดียวกันกับจขกท.เป็น ตกลงเป็นพ่อลูกกันไหมนะ? เนื่องจากว่าระยะแรกเข้าใจว่าไม่ใช่ แม้กระนั้นดูไปเดี๋ยวเดียวฉากที่ฮานะกล่าวกับคุณลุงว่าในร่างกายของฉันมีเลือดของเขาอยู่ทำให้เราเริ่มยังไม่มั่นใจ
ประกอบกับฉากเลิฟซีนตอนกินมื้อเช้าที่มีห่าฝนเลือดสาดลงมา ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นเลิฟซีนที่ขนพองสยองเกล้า คิดเอาเองว่าเลือดมันเป็นสัญลักษณ์ของอะไรต้องห้ามไหมนะ เชื้อสายเดียวกัน? อะไรคร่าวๆนั้น ส่วนฉากที่เพื่อนผู้ร่วมการทำงานฮานะ (Kora Kengo) มาที่บ้าน เราเข้าใจว่าจุงโกต้องการจะตรวจว่าฮานะจะไปได้กับผู้ชายคนนี้หรือเปล่า เหมือนต้องการจะพิสูจน์ว่ากลิ่นของฮานะติดอยู่ไหม เพียงพอลงความเห็นว่าไม่มี ก็เลยไว้ใจ ไล่กลับไปได้ (เรายังคลุมเคลือว่าเราเข้าใจถูกไหมนะคะ) อ้อ เกือบจะลืม เราคลางแคลงเหมือนกันว่าตกลงจุงโกทำยังไงกับศพภายหลังที่ฆ่าแล้ว
ดู my man หนังเต็มเรื่อง HD
ถ้าว่าย้อนกลับไปเมื่อสักตอนต้นสมัยปี 2000s น่าจะเป็นสมัยรุ่งเรื่องของขบขันวัยรุ่นพล็อตสัปตนเกี่ยวกับฮอร์โมนทางเพศ มีหนังแนวๆนี้หลายเรื่องที่ถูกผลิตออกมารวมทั้งดังเปรี้ยงทีเดียว วันเวลาผ่านไปหลายสิบปี หนังแนวนี้ก็เสียชีวิตไปตามเทรนด์ แต่ว่าก็ยังมีออกมาบ้างเล็กน้อย เพียงยังไม่มีเรื่องไหนที่ล้มบัลลังก์ความคลาสสิกนั้นได้ ก่อนมาเจอกับ “Hard Feelings วัยพล่าน” (Hammerharte Jungs) หนังวัยรุ่นสัญชาตเยอรมัน ที่ถึงจะออกสตาร์ทแรงแบบเสียวซาบซ่าน…แต่ว่าก็ยังมีหัวดวงใจอยู่ Hard Feelings วัยพล่าน เกิดเรื่องราวของ ชาร์ลี กับ เพาล่า พวกเขาเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กๆแต่ว่าขณะนี้เขาเติบโตแปลงเป็นนักเรียน ม.ปลาย กลับเจอกับปัญญาการเข้าสังคม เพราะว่าข้อด้อยเกี่ยวกับข้อความสำคัญเครื่องเพศ จนกระทั่งวันหนึ่งมีสายฟ้าผ่าฟาดลงมาใกล้กับพวกเขา โน่นเป็นจุดเริ่มของเรื่องแปลกๆทั้งสองจำเป็นต้องจัดการกับแรงผลักดันทางเพศกับฮอร์โมนที่พุ่งสูงมากขึ้น กับความรู้สึกขายหน้าในสังคมสถานที่เรียน ที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นที่ไม่มีผู้ใดวางใจได้เลย เว้นเสียแต่พวกเขาที่มีกันและกัน
ว่ากันตามเกณฑ์ Hard Feelings ก็เกือบจะไม่ใช่หนังที่มีใจความสำคัญอะไรแปลกใหม่เลย ไม่มีความแตกต่างจากการจับเอาหนังวัยรุ่นทะลึ่งตึงตังเมื่อ 20 ปีกลาย มาใส่ขวดเขย่าแล้วก็เล่าใหม่อีกรอบ ในต้นแบบที่ปรับให้กับช่วงของสังคมเดี๋ยวนี้มากเพิ่มขึ้น ถึงแม้หนังจะเปิดเรื่องมาแบบ 18+ อีกทั้งแซ่บ อีกทั้งหวาบหวิว ออกจะขวานผ่าซาก ราวการเปิดตำราเรียนเรื่องเพศศึกษาอะไรทำนองนั้น แต่ไม่ใช่ความจัญไรที่เสียเปล่าอะไรอะไรถึงแม้พล็อตหนังจะออกจะสุดขั้วไปสักนิด กับการออกแบบให้อวัยวะสืบพันธุ์เสวนาได้ ซึ่งก็เป็นการเดินตามรอยภาพยนตร์ตลกสัปดนของเยอรมัน เมื่อ 20 ปีกลาย อย่างหนังเครือญาติ Harte Jungs แต่ว่าความแปลกในจุดนี้ก็นับว่าหนังทำออกมาได้สุดทางดีเช่นเดียวกัน เป็นการแต่งเติมจินตนาการที่โยงกับการเจริญเติบโตของผู้แสดงหลักอีกทั้ง 2 คนภายในเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม
พวกเขาก็คือมนุษย์ปกติทั่วๆไป ที่ยังมีความคิด ความรู้สึก และก็สิ่งที่ต้องการ ดู my man ที่จำต้องอยู่ร่วมกับสังคมที่เต็มไปด้วยสิ่งที่คาดการณ์มิได้เท่าไร Hard Feelings บางครั้งก็อาจจะเป็นหนังที่ยกใจความสำคัญเด่นเกี่ยวกับเรื่องทางเพศในตอนครึ่งแรก แม้กระนั้นในตอนช่วงหลังแปลงเป็นหนัง Coming-of-Age ที่ตั้งใจแล้วก็ใส่หัวใจเข้าไปได้อย่างแท้จริง พวกเรารู้สึกตกหลุมรักการที่หนังไม่ทิ้งเนื้อหาต่างๆกับความรู้สึกของทุกนักแสดงที่ปูพื้นเพออกมา แปลงเป็นว่าทุกติดอยู่แรกเตอร์ต่างมีหัวดวงใจ และก็อยากได้ความเกี่ยวพันที่พอเหมาะพอเจาะกับหัวใจตนเองเป็นที่สุด
The Boogeyman เดอะ บูกี้แมน นี่บางครั้งก็อาจจะยอดเยี่ยมในตำนานผีปรำปราของฝั่งอเมริกา myman ที่พวกเราบางครั้งก็อาจจะเคยทราบได้สัมผัสกับมาบ้าง เนื่องจากที่มันดังได้ก็มาจากเจ้าพ่อนิยายสยดสยอง “สตีเวน คิง” เอามาร้อยเรียงสร้างเกิดเรื่องราวให้ชักชวนหลอน เปลี่ยนออกมาเป็น “The Boogeyman” ที่ฉบับนี้อิงมาจากงานนิพนธ์สุดคลาสสิกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่จะมาเปิดทางตำนานผีตู้สำหรับใส่เสื้อผ้าที่ฝรั่งกลัวยิ่งนัก
กระนั้นความหลอนเฮี้ยน..จะทำเป็นถึงขนาดนั้นไหม นี่เป็นเรื่องราวของ ซาดี้ ฮาร์เปอร์ นักเรียนผู้หญิงวัยมัธยมศึกษาตอนปลายแล้วก็ ซอว์เยอร์ น้องสาวของคุณ ที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียแม่ทันทีทันใด และไม่ได้รับการเกื้อกูลที่ดีพอเพียงจาก วิล บิดาของพวกเขา ที่มีอาชีพเป็นนักจิตวิทยาบรรเทา เพราะว่าตัวเขาเองก็ยังคงจัดการกับความเจ็บของตนอยู่ วันหนึ่งมีคนป่วยสุดสงสารโผล่มาที่บ้านเพื่อขอร้อง แต่ว่าแล้วคนเจ็บคนนั้นก็ได้ทิ้งเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดน่ากลัวที่ทำให้ครอบครัวของพวกเขากลายเป็นเหยื่อของเรื่องลี้ลับ
บางทีอาจจะบอกได้หนังประเด็นนี้ก็เป็นตามสูตรสำเร็จของพวกหนังผีสุดสยดสยอง ที่ใช้บริการผู้กำกับดาวรุ่งมาหยั่งเชิงถ่ายทอดความหลอนแบบเดิมๆที่พวกเราบางครั้งอาจจะเคยได้เห็นกันมาบ้างแล้ว “ร็อบ ซาเวจ” ที่่ผ่านงานควบคุมซีรีส์และก็หนังสยดสยองทุนต่ำมาหลายเรื่อง เขาทราบแนวทางจัดการกับหนังหัวข้อนี้ดี ด้วยการผลิตบรรยากาศเชิญชวนหลอนรวมทั้งสะพรึงกลัว ทั้งยังสามารถรักษาระดับงบประมาณของหนังเอาไว้ได้อย่างน่าพึงพอใจกลุ่มประธานเลยล่ะไม่รู้เรื่องว่าบุคคลอื่นจะคิดเช่นเดียวกันไหม แม้กระนั้นตลอดเวลาที่นั่งมอง The Boogeyman ประเด็นนี้ แอบรู้สึกรวมทั้งระลึกถึงรสสัมผัสแบบที่เคยลิ้มรสมาแล้วในหนังดังแจ้งกำเนิดของผู้กำกับ เดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก อย่าง “Lights Out” เมื่อไม่กี่ปีกลาย ที่มาในโทนคล้ายกัน รวมทั้งยังเป็นหนังผีทุนต่ำเช่นกัน จังหวะแล้วก็บรรยากาศชักชวนให้นึกถึงประเด็นนั้น ถึงแม้ว่าความน่าขนลุกเชิญชวนหลอนะยังทำเป็นไม่ถึงมาตรฐานแบบที่ผีไฟดับทำเป็นก็ตาม
แต่ว่าขั้นต่ำๆThe Boogeyman ก็ปรับบทและก็เล่าได้ร่วมยุคก้าวหน้า ดู my man ก็ไม่วายทิ้งกลิ่นความเป็นนิยายของ สตีเวน คิง ที่ชอบเป็นใจความสำคัญความเจ็บรวมทั้งดำตรงเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวของวัยรุ่นเข้ามาเกี่ยวพัน ถึงจะเป็นพล็อตบ่อยๆกล้วยๆที่ทายใจทางได้ไม่ยาก ก็จำต้องสารภาพว่าหนังสร้างบรรยากาศเชื้อเชิญหลอนก้าวหน้าอย่างยิ่ง ในขณะที่ผู้ชมจะได้มองเห็นเจ้าอสุรเพียงแค่วับวามแว่บๆไม่จุใจมากแค่ไหนการผลิตบรรยากาศของหนังประเด็นนี้ที่เน้นย้ำภาพแสงสว่างน้อย เพราะว่าจำเป็นต้องใช้ลูกเล่นกับการจัดแสงสว่างแล้วก็ไฟตลอดทั้งเรื่อง จุดนี้เป็นสิ่งที่รู้สึกตรึงใจด้วยรวมทั้งทำให้อารมณ์เสียตามกันไปพร้อมเพียงกัน
ด้วยเหตุว่าท่ามกลางความมืดมัวที่หนังมานะบิ้วท์อารมณ์อยู่นั้น ถึงจะเป็นจังหวะที่ใช้ได้ แต่ว่าบางซีนมันกลับมืดเกินจำเป็น มืดประเภทที่แทบไม่เห็นเนื้อหาต่างๆกับเหตุที่เกิดขึ้นในบางครั้งด้วยแน่ๆว่าหนังสไตล์นี้ ชอบใช้บริการผู้แสดงคนใหม่รวมทั้งผู้แสดงที่ยังมิได้เป็นที่รู้จักเยอะแค่ไหน รวมทั้งจัดว่าหนังหัวข้อนี้แคสติ้งผู้แสดงมาได้ค่อนข้างจะดี โดยยิ่งไปกว่านั้น “โซฟี แททเชอร์” ที่มีเสน่ห์ในหนังหัวข้อนี้มากมาย กล้องถ่ายภาพรักคุณ แม้ว่าจะแสดงกับแสงสว่างน้อยๆแม้กระนั้นเอกลักษณ์แล้วก็การแสดงของคุณก็สู้หน้ากล้องถ่ายภาพได้อย่างดีเยี่ยม ถึงจะยังจะต้องบ่มนิสัยประสบการณ์แอคติ้งไปอีกหน่อย เชื่อเลยว่าสาวน้อยคนนี้คงจะมีอนาคตที่ไกลในฮอลลิวูดถัดไป
The Little Mermaid นางเงือกน้อยเผชิญภัย ดู my man
มาถึงคิวของหนังไลฟ์แอคชั่นจากเทพนิยายสุดคลาสสิกจากวอลต์ ดิสนีย์ ที่ทั้งโลกต่างรอคอยรอกันมาแสนนาน เพราะว่านี่เป็น “The Little Mermaid นางเงือกน้อยเสี่ยงภัย” ตำนานนางเงือกน้อยที่เป็นการท้ามากมายๆในงานสร้างในต้นแบบคนแสดง เพราะเหตุว่าจะต้องใช้เคล็ดวิธีพิเศษต่างๆมากมายก่ายกองสำหรับในการสร้างโลกใต้แผ่นน้ำ ถึงแม้ว่าพวกเราจะได้ยินข่าวคราวคำปรามาสเกี่ยวกับหนังหัวข้อนี้แบบต่อเนื่อง แม้กระนั้นคำตอบที่ออกมานั้น..จะลบคำปรามาสพวกนั้นได้ไหมนะ? The Little Mermaid นางเงือกน้อยเผชิญภัย เกิดเรื่องราวของ แอเรียล ลูกสาวของราชาไทรตันที่โลกใต้มหาสมุทร ชีวิตของคุณจะต้องอยู่ใต้คำสั่งจากบิดา ถึงแม้ว่าคุณใฝ่ฝันต้องการจะเป็นมนุษย์เดินดินแล้วก็หลงรักพระราชโอรสอีริค จนกระทั่งยอมแลกเปลี่ยนเสียงของคุณเพื่อรับมนตร์ให้แปลงร่างเป็นมนุษย์ 3 วัน และก็ทำภารกิจเพื่อพระราชโอรสจูบรักจริงกับคุณให้ได้ แต่ว่ามันก็แลกเปลี่ยนมาด้วยความเจ็บที่ช้ำใจมากกว่าจะการหลั่งน้ำตา
โดยในหนังฉบับนี้ก็ได้ผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์แล้วก็ตัวบิดาหนังมิวสิคัล อย่าง “ร็อบ มาร์แชล” มานั่งเก้าอี้ดูแลงานสร้าง ที่นับว่าเก็บเนื้อหาต่างๆเกี่ยวกับความเป็นแฟนตาซีและก็มิวสิคัลได้อย่างน่าพึงพอใจ ถึงแม้ว่ายังมีอีกหลายส่วนประกอบที่หนังประเด็นนี้ยังทำเป็นขาดๆเกินๆรวมทั้งมอบรสออกมาที่ยังไม่กลมกล่อมละมุนละไมซักเท่าไหร่นัก แม้กระนั้นมันก็ไม่ใช่หนังที่ตกอับอะไรเลยด้วยเหมือนกัน ดังที่เกริ่นไปข้างต้นนั้นว่า The Little Mermaid ที่เปลี่ยนมาเป็นฉบับไลฟ์แอคชั่นนั้น ความท้าอยู่ที่งานโปรดักชั่นโดยแท้จริง เพราะว่าการออกแบบโลกใต้ท้องมหาสมุทรที่นับได้ว่าเป็นฉากไฮไลต์สำคัญๆแทบมากยิ่งกว่า 60% ของประเด็นนี้เป็นงานที่ยากไม่น้อย ไมว่าจะเป็นเนื้อหาการเคลือนไหวของผู้แสดง ไปจนกระทั่งการแสดงใต้น้ำกับนักแสดงแอนิเมชั่น ทุกๆซีนมีความยากในระดับที่แตกต่างออกไป แม้กระนั้นหนังก็จัดว่าอุตสาหะเก็บเนื้อหาต่างๆเอาไว้เจริญที่สุด ถึงมันจะยังมิได้เพอร์เฟ็คและก็คมมากอะไรขนาดนั้น
จำเป็นต้องสารภาพว่าโลกใต้มหาสมุทรในหนัง The Little Mermaid เวอร์ชั่นนี้ ดู my man ปนไปด้วยความสมจริงสมจังรวมทั้งความแปลกพร้อมๆกันอย่างน่าปะหลาดใจ หลายๆฉากสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ดิบได้ดี แต่ว่าก็ยังมีอีกหลายๆฉากที่คิดว่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมทั้งไปสู่สูตรสำเร็จเดิมๆที่พวกเราเคยได้เห็นส่วนประกอบอะไรแบบงี้ในหนังดิสนีย์เรื่องก่อนๆมาแล้ว ทั้งยังเนื้อหาที่ใส่เข้ามาประกอบนักแสดงต่างๆก็ยังมองไม่ค่อยสมจริงสมจังที่สุด เป็นการใส่ซีจีที่ราวกับชี้ให้เห็นว่าเป็นซีจี ยังไม่ถึงจุดที่ทำให้ขัดใจแต่ว่าก็แบบตะหงิดดวงใจได้อยู่นิดหน่อยระหว่างที่งานวางแบบฉากต่างๆบนโลกเหนือท้องน้ำนั้น
ก็เต็มไปด้วยส่วนประกอบซ้ำเดิมจากที่พวกเราเผชิญในหนังไลฟ์แอคชั่นของดิสนีย์มาก่อนเช่นเดียวกัน แทบไม่มีอะไรใหม่ แต่ว่าแอบสารภาพอย่างไม่อ้อมค้อมเลยว่า The Little Mermaid เวอร์ชั่นนี้กลายเป็นว่าเรื่องราวแล้วก็เรื่องราวต่างๆบนบกนั้น กลับมองได้สนุกมากยิ่งกว่าสตอปรี่ใต้ท้องมหาสมุทรเสียอีกถึงแม้ว่า The Little Mermaid จะรักษาและก็ยกย่องต้นฉบับในส่วนของพล็อตเรื่องมาเกือบจะเป๊ะๆเลย แม้กระนั้นเมื่อเอามาเล่าในแบบคนแสดงแล้วนั้น มันกลับมองเป็นเทพนิยายที่เห่อเหิมเกินกำลังไปนิดหน่อย บางทีอาจจะด้วยเหตุว่าจริตความเป็นเจ้าฟ้าหญิง การฝันเฟื่องสำหรับในการตกหลุมรักพระราชโอรส สูตรสำเร็จเดิมๆที่อีกทั้งเชยและก็อีกทั้งเชยไปแล้ว ยังถูกใส่เข้ามาในประเด็นนี้แค่เพียงอยากรักษาอรรถรสของต้นฉบับ ที่โชคร้ายไปหน่อย ด้วยเหตุว่าบางคราวมันก็มิได้เวิร์กกับหนังมากแค่ไหน
Fast X เร็ว…แรงทะลุเมืองนรก 10
แล้วก็แล้วพวกเราก็ซิ่งมาถึงจุดเริ่มแรกของตอนจบ…ที่ก็ไม่แน่ใจจริงๆอีกนั่นแหละว่าจะจบใช่หรือไม่ กับอีกหนึ่งเฟรนไชส์หนังแอคชั่นที่หนักแน่นที่สุดในยุคนี้ อย่าง “Fast X เร็ว…แรงทะลุเมืองนรก 10” ที่ผู้ใดจะไปนึกว่าจากภาคแรกที่เกือบไปไม่รอดแล้ว สามารถยื้อลมหายใจเปลี่ยนมาเป็นภาคที่ 10 ได้อย่างในตอนนี้วันนี้ รวมทั้งมาคราวนี้ก็อย่างกับไปนั่งร้านแล้วสั่งยำรวมมิตรที่เต็มไปด้วยวัตถุและก็เครื่องมาก กับรสที่เผ็ดฉ่ากระทั่งเกือบจะเหน็ดเหนื่อย แม้กระนั้นอย่าลืมไปว่า..นี่เป็นเริ่ม Fast X เร็ว…แรงทะลุเมืองนรก 10 เกิดเรื่องราวภายหลังจากภารกิจเยอะมากรวมทั้งการดิ้นรนฟันฝ่าปัญหานานาประการ
ดอม ทอเร็ตโต้ และก็ครอบครัวของเขา ก็สามารถเชือดคม ดู my man ชนะสงครามประสาทแล้วก็แซงหน้าศัตรูทุกคนที่อยู่บนทางของพวกเขาได้ ขณะนี้ พวกเขาจะได้ประจันหน้ากับคู่แข่งที่อันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยพบมา: ภัยรุกรามน่าขนพองสยองเกล้าจากเงาอดีตกาล ที่ถูกเผาผลาญด้วยหนี้สินเลือด ผู้เป็นจริงเป็นจังจะพังทลายครอบครัวนี้ให้แตกเป็นเสี่ยงแล้วก็ทำลายทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง และก็ทุกคนที่ดอมรัก ไปตลอดไป
เพราะ “จัสติน ลิน” ประกาศอนตัวจากการเป็นผู้กำกับไปจากทันควัน เพื่อเพียงแค่ไม่กี่อึดใจก่อนที่จะหนังจะเริ่มถ่ายทำ ให้ภาคนี้ได้ส่งไม้แม้กระทั่งกับ “หฝ่าส์ เลเทอร์เรียร์” ที่เคยผ่านงานปังๆอย่าง Now You See Me อีกทั้ง 2 ภาค แล้วก็หนังเชื้อสาย Clash of the Titans ต่อให้เป็นประสานมือต่อแบบทันทีทันใดไม่น้อย แต่ว่าเขาก็สามารถปรับพฤติกรรมกับวัฒนธรรม หรือบางทีอาจจะกล่าวได้ว่า “แฟมิลี่” ของหนังเครือญาติฟาสต์ได้อย่างเร็วแบบเดียวกันส่วนใดส่วนหนึ่งบางครั้งก็อาจจะเป็นด้วยเหตุว่าหนังได้ถูกวางรากฐานเอาไว้อยู่แล้ว โดยกลุ่มสร้างชุดเดิม ที่นำกลุ่มโดย จัสติน ลิน นั่นเอง ทำให้พวกเราวางใจหัวข้อการเดินเรื่องรวมทั้งเล่าแบบไม่มีรอยต่อไปในภาคนี้ไปได้เลย งานดูแลของ หฝ่าส์ เลเทอร์เรียร์ ยังคงเส้นอาจจะวารวมทั้งเอกลักษณ์ของเฟรนไชส์หนังประเด็นนี้อย่างดีเยี่ยม
เป็นประสบการณ์ 2 ชั่วโมงนิดๆที่เต็มไปด้วยฉากแอคชั่นเชิญชวนเหวอและไม่มีเหตุผลอะไรก็แล้วแต่เลยสักหน่อย betflix711 กลับเต็มไปด้วยอรรถรสความมันส์แล้วก็ความเพลิดเพลินประเภทระเบิดเมืองเป็นจุล สำหรับ Fast X ที่ได้ จัสติน ลิน มาร่วมทีมเขียนบทกับ “ดินแดน มาซัว” ที่รู้จักกันดีมาตั้งแต่เฟรนไชส์สมัยแรกๆแล้วก็ “มึงปรี่ สก็อต ทอมป์สัน” จากหนัง Wrath of the Titans ที่ถูกดึงตัวว่าร่วมพร่ำสอนบท แน่ๆว่าหนังยังสืบต่อเรื่องราวเอาไว้ได้ออกจะแยบคาย แต่ว่าแม้จะสอบถามหาถึงแก่นสารต่างๆแล้วนั้น คงจำเป็นต้องบอกขวานผ่าซากว่า Fast X เป็นหนังที่ค่อนข้างจะเลอะรวมทั้งหาสาระอะไรเกือบจะมิได้เลย เพียงแต่ว่ามันยังสามารถทำให้ผู้ชมเอ็นหน้าจอยไปด้วยมันเจริญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับที่จะกรี๊ดกร๊าดไปกับ easter eggs ต่างๆที่วางเรียงรายได้อีกทั้งเรื่อง